วันพุธที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2558

การควบคุมการแพร่กระจายเชื้อ


Transmission based precautions 
(การป้องกันการแพร่กระจายเชื้อในโรงพยาบาล)

        เป็นวิธีป้องกันการแพร่กระจายเชื้อจากผู้ป่วยที่ทราบหรือสงสัยว่าติดเชื้อจากเชื้อที่ทราบชนิดเป็นมาตรการเพิ่มเติมจาก Standard precaution โดยเพิ่มการป้องกันตามวิธีการถ่ายทอดโรค บางโรคอาจใช้มากกว่า วิธี จากทั้งหมด วิธี

1) Contact precautions

       เป็นวิธีป้องกันเชื้อโรคที่ติดต่อโดยการสัมผัสทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น โรคอุจจาระร่วงจาก rotavirus แผลติดเชื้อและฝี ตาแดงจากไวรัส โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (SARS) และไข้หวัดนก หิดและเหา ฯลฯ การป้องกัน ได้แก่  - สวมถุงมือและเสื้อคลุม (Gown) เมื่อต้องสัมผัสกับร่างกาย สารคัดหลั่ง หรือสิ่งของของผู้ป่วย - วัสดุอุปกรณ์ที่ไม่ใช้แล้วในห้องตรวจ หรือบ้านผู้ป่วย ให้กำจัดทันที ส่วนที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ ให้ทำความสะอาดและทำลายเชื้อก่อนนำมาใช้ใหม่

2) Droplet precautions

     เป็นวิธีการป้องกันเชื้อโรคที่แพร่กระจายทางละอองเสมหะ และการสัมผัสเยื่อบุตา เยื่อบุปากและจมูก เช่น หัดเยอรมัน คางทูม ไอกรน ไข้กาฬหลังแอ่น ไข้หวัดใหญ่ การป้องกันที่สำคัญได้แก่ การสวมผ้าปิดปาก/จมูก ชนิดSurgical mask เมื่อเข้าใกล้ผู้ป่วยในระยะ ฟุต

3) Airborne precautions

      เป็นวิธีการป้องกันเชื้อโรคที่มีขนาดเล็กมาก ซึ่งแพร่ไปด้วยกระแสลม เช่น วัณโรค โรคหัด โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (Severe Acute Respiratory Syndrome ; SARS) การป้องกันที่สำคัญ คือ การสวมผ้าปิดปาก/จมูก ชนิดที่มีคุณสมบัติกรองเชื้อโรคได้ เมื่อเข้าไปในห้องผู้ป่วย หรือเข้าใกล้ผู้ป่วย เช่น ใช้หน้ากาก N-95 respirator เป็นต้น




การล้างมือ   7  ขั้นตอน

ควรล้างมือเมื่อใด
1.ก่อนและหลังไปสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ป่วย
2.ก่อนและหลังทำหัตถการต่างๆ
3.ก่อนและหลังสัมผัสสิ่งแวดล้อมในโรงพยาบาล

ความสำคัญของการล้างมือ
มือเป็นสิ่งที่เราใช้ตลอดเวลาและโรคหลายโรคก็ติดต่อทางมือโดยมือเป็นตัวนำเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย การล้างมือเป็นวิธีการป้องกันโรคติดเชื้อทั้งทางเดินหายใจและการสัมผัส

วิธีการล้างมือ




1. ฝ่ามือถูกัน
2. ฝ่ามือถูหลังมือและซอกนิ้วมือ
3. ฝ่ามือถูกฝ่ามือและซอกนิ้วมือ
4. หลังนิ้วมือถูฝ่ามือ
5. ถูนิ้วหัวแม่มือโดยรอบด้วยฝ่ามือ
6. ปลายนิ้วถูฝ่ามือ
7. ถูรอบข้อมือ
***และทุกขั้นตอนทำ ครั้ง สลับกันทั้ง ข้าง***



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น